หนุ่มๆสาวๆช่วงนี้ถ้าลองเดินสวน (สวนจตุจักร) เดินสยาม หรือตามตลาดนัด งานอีเวนท์ต่างๆ มีเทรนด์แฟชั่นนึงที่คงจะเห็นกันบ่อยๆ (ที่มีมาสักพักแล้วก็ยังไม่เอาท์ซะที) มันคือเสื้อฮาวาย ที่สุดแสนจะ “อโล่ฮา ฮาริบบ้า!!!” ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่คนใส่เสื้อฮาวาย จะบอกว่าพ่อค้าบ้านเราเพิ่งเอาเข้ามาขายกันก็ไม่น่าจะใช่ เพราะแต่ไหนแต่ไรเดินเจเจโซนมือสองก็เห็นแขวนขายกันมานานนมแล้ว วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าอะไรที่ทำให้เสื้อฮาวาย เป็นที่นิยมชมชอบของใครหลายๆคน และวิธีการเลือกเสื้อฮาวายที่ดีมาฝากกัน

“ใส่สบาย” คงเป็นสิ่งที่เสื้อเชิ้ตติดกระดุมแขนสั้นลายฮาวายมอบให้กับคนใส่ทุกคน แต่จะสบายอย่างไรไม่ให้ดูแล้วไม่ใส่ใจเดินออกจากบ้าน อย่างแรกเลยที่เถียงไม่ได้สำหรับการใส่เสื้อฮาวาย จุดเด่นของมันคือเรื่องดีเทล คำว่า “Detail” คือคีย์เวิร์ดเลยของเสื้อเชิ้ตแบบนี้ เพราะมันคือสิ่งที่จะมาแปะอยู่บนตัวของคนใส่แบบจัดเต็ม กราฟฟิกของเสื้อฮาวายมีแพทเทิร์นหลักที่มีให้เห็นกันบ่อยๆอย่างเช่น “บรรดาดอกไม้พฤกษานานาพรรณของเกาะฮาวาย” “สาวน้อยกับอูกุเลเล่” “เกาะสวาทหาดสวรรค์” “ต้นมะพร้าวบนเกาะจิ๋ว” “กราฟฟิกชนเผ่าฮาวาย” และอีกหลายลายที่เห็นแล้วโคตรจะ “ฮูลาฮูล่า”  (หรือถ้าโชคดีบางทีก็มีลายกราฟฟิกเมืองซานฟรานซิสโกอย่างเช่น “สะพานโกลเด้นเกต” “รถรางขึ้นเขา” เป็นต้น ด้วยเช่นกัน) นอกจากลายแล้ว สิ่งสำคัญ (มากๆถึงมากที่สุด) คือโทนสีที่

เลือกใช้บนเสื้อ มันคือพระเอกของเสื้อเชิ้ตชนิดนี้เลยก็ว่าได้ หากมองย้อนไปสักยี่สิบสามสิบปีโทนสีนีออนอาจจะเป็นที่ชื่นชอบในเวลานั้นก็จริง แต่เมื่อมาเป็นยุคสมัยนี้ การหยิบเอาสีโทนจืดๆที่อยู่เหนือทุกกาลเวลามาจับคู่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า สีอย่างเหลืองอ่อน น้ำเงินซีดกรมท่า เขียวขี้ม้า แดงเลือดหมู (ระวังการเล่นสี่ระหว่างเสื้อกับลายบนเสื้อด้วย) จะใส่คู่กับกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะในวันสบายๆก็ได้ หรือถ้าต้องการความจริงจังขึ้นมาหน่อย ลองหยิบกางเกง Chino สีกากี หรือเดนิมตัวเก่งสักตัว มาเข้าชุดก็ให้อารมณ์วินเทจและเป็นทางการได้ดีไม่น้อย คุณผู้หญิงเองที่อ่านมาถึงตรงนี้จะบอกว่าเสื้อฮาวายกับกระโปรงก็ไม่ใช่ข้อห้ามแต่อย่างไร (แถมน่ารักซะด้วย) ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่ากังวลที่จะใส่มันแบบปล่อยชายเสื้อออกมาอย่างมั่นใจ เพราะมันคือสิ่งที่เสื้อฮาวายถูกสร้างมาให้กับคุณ… มันคือความ “ใส่สบาย”

ย้อนไปถึงที่มาก่อน เดิมทีเสื้อเชิ้ตที่ว่านี้เป็นสัญลักษณ์ความพื้นเมืองของชาวเกาะและเหมือนเป็นของฝากจากการไปเยือนเมืองฮาวาย และในหนัง Hollywood ช่วงยุค 50’s เอง เวลามีฉากที่เกี่ยวกับฮาวายเสื้อผ้าก็ต้องเป็นเสื้อเชิ้ตฮาวายตลอด จนมาในปี 60’s 70’s เป็นช่วงที่อเมริกันมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮิปปี้ และซานฟรานซิสโก คือเมืองหลวงของบุปผาชน สิ่งที่เกิดขึ้นคือวัยรุ่นยุคนั้นเริ่มให้ความสำคัญกับร้านขายเสื้อมือสองเพราะราคาที่ถูกแสนถูก กลายเป็นของที่กลับมา Hip อีกครั้งในเวลานั้น ทำให้จนถึงทุกวันนี้เมื่อกระแส Street Fashion ที่เปิดกว้าง และของวินเทจเริ่มเป็นพระเอกของตู้เสื้อผ้า เวลาเห็นคนใส่เสื้อฮาวายเราไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นชาวเกาะอะไรอย่างใดอีกต่อไป เพราะมันได้กลายหนึ่งในไอเทมที่มี Fashion History ช่วยเพิ่มเรื่องราวและความมีสไตล์ให้กับคนหยิบมาใส่ในทุกๆครั้งที่เห็น

เอาล่ะ ทีนี้เราเขยิบมาในสเกลที่ต้องเป็นคนบ้าของวินเทจกันบ้าง กับวิธีการเลือกเสื้อฮาวายที่ดี สิ่งที่จะทำให้รู้ว่าเสื้อฮาวายที่อยู่ตรงหน้าคุณ (หยิบมาดูกันเลย) เป็นของเก่าไม่เก่ามีอยู่หลายอย่าง หนึ่งคือป้าย Tag หลังคอ ถ้าเป็นป้ายผ้าและปักไว้ว่า Made in Hawaii เมื่อไรล่ะก็ดีใจได้เลยนี่คือเสื้อวินเทจของแท้แน่ ต่อมาคือ “กระดุม” เม็ดกระดุมของเสื้อฮาวายแบบคลาสสิค ปกติจะทำมาจากกะลามะพร้าว ถ้าวินเทจกว่านั้นหน่อยเห็นว่ามีกระดุมเหล็กที่ทำมาจากเงินจีนสมัยก่อนด้วย (ยังไม่เคยเจอเลย) นอกจากนั้นที่ต้องสังเกตให้ดีคือผ้าที่ใช้ทำ ส่วนใหญ่จะเป็น Cotton ก็จริง แต่ถ้าเป็นผ้า Rayon ราคาก็จะสูงขึ้นมาอีก และถ้าเป็นเสื้อฮาวายคุณภาพดีลายบนเสื้อจะเป็นลายพิมพ์กับเนื้อผ้ามาเลย ไม่ได้นำมาสกรีนใหม่แต่อย่างใด ทำให้ส่วนที่เป็นกระเป๋าและคอเสื้อลายจะไม่ขาดตอน  ถ้าคุณสมบัติครบตามที่บอกมา เตรียมเริ่มขยับตามสูตรได้เลย… แอบตะล่อมพับๆแล้วยื่นตังค์ทำเนียนให้คนขายใส่ถุงไวๆเผื่อทีเผลอ (แต่เชื่อว่าระดับพ่อค้าแม่ค้าแกคงรู้แหละ)

ถึงตอนนี้หลายคนคงอยากรีบไปเดินเลือกเสื้อฮาวายด้วยตัวเองแล้ว เอ้า! แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ!? โชคดีที่เมืองไทยเรายิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเสื้อมือสองมีของวินเทจเจ๋งๆให้เลือกหามากมายอยู่ด้วย (ขนาดต่างชาติยังมา) ลองให้เวลาตัวเองกับเสื้อฮาวายที่มีอยู่ไม่ซ้ำกันเยอะแยะมากมายในร้านมือสอง และขอให้เลือกเสื้อฮาวายอย่างสนุกครับ…

Writer: Pakkawat Tanghom